Nintendo Switch OLED เป็นตัวอัพเกรดจาก V2 โดยมีขนาด 102mm. x 242mm. x 13.9mm. และหนัก 420 g. (รวม Joy-Con) โดยมีความแตกต่างจาก V2 เพียงเล็กน้อย มีขนาดใหญ่ขึ้น น้ำหนักมากขึ้น แต่มาพร้อมกับขาตั้งที่สามารถกางออก-ถอดออกได้ง่าย ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
มาพร้อมกับจอแสดงผล OLED มีขนาด 7 นิ้ว สามารถใช้งาน Touch Screen ได้ ซึ่งจอแสดงผลแบบ OLED มีความคมชัด สีสันสดใส โดยมีความละเอียด HD หากนำไปต่อเข้ากับอุปกรณ์ Dock หรือ TV จะได้รับความละเอียดที่ FHD และได้รับสีสัน สมจริงทุกรายละเอียด ผ่านช่อง AC Adapter และเสียบสาย HDMI
ส่วนตัวชิปประมวลผลของ Nintendo ใช้ชิป NVIDIA Tegra X1 มีหน่วยความจำ RAM 4 GB และมีความจุพื้นที่ 64 GB มีช่อง USB-C 2 ช่อง มีช่องต่อหูฟัง 3.5 มม. โดยลดช่อง USB-C ไป 1 ช่อง และเพิ่มช่องเสียบสาย LAN ทำให้ต่อสาย LAN ได้โดยตรง ไม่ต้องใช้ตัวแปลง อีกทั้งเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi และ Bluetooth ได้เช่นกัน รวมไปถึงแบตเตอรี่ถึกทนใช้งานได้นาน 5-9 ชั่วโมง
จุดเด่น
– แม้ความละเอียด HD แต่จอแสดงผลแบบ OLED ทำให้ได้ภาพคมชัด เฉดสีสด สมจริง และเล่นในที่แสงเยอะได้ดีกว่าจอ IPS-LCD
– มีความจุพื้นที่เยอะขึ้น เหมาะกับเล่นเกมที่กินสเปกสูง
– พกพาง่าย ให้ความสะดวก สามารถเล่นเกมได้ทุกที่ ทุกเวลา
– สามารถเล่นเกมได้หลายรูปแบบทั้งเล่นคนเดียวกับเพื่อน และครอบครัว
– ใช้งานสาย LAN ได้โดยตรง ทำให้ใช้งานเครือข่ายได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
จุดควรพิจารณา
– มีความแตกต่างจากรุ่น V2 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
– เครื่อง Nintendo Switch ให้ความละเอียด HD เท่านั้น
– ไม่สามารถใช้งาน Joy-Con ขณะชาร์จ หากต้องการใช้งานต้องซื้อ Joy-Con Charging Grip